ในการออกแบบระบบไฟล์แชร์ภายในองค์กร สิ่งสำคัญที่ผู้ดูแลระบบทุกคนควรรู้คือ “พอร์ตที่โปรโตคอล SMB ใช้สื่อสาร” เนื่องจากพอร์ตเหล่านี้เป็นหัวใจหลักของการให้บริการไฟล์แชร์ทั้งบน Windows File Server และ Linux Samba หากเข้าใจโครงสร้างพอร์ตที่เกี่ยวข้อง จะช่วยให้การตั้งค่า Firewall การตรวจสอบปัญหา และการบริหารระบบเครือข่ายเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น บทความนี้เป็นการสรุปพอร์ตสำคัญที่ Windows และ Linux ใช้ร่วมกันในบริการ SMB/CIFS พร้อมอธิบายหน้าที่แต่ละพอร์ต เพื่อให้คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในระบบของตนได้อย่างมั่นใจ เป็นบทความที่ต่อจากบทความ : การติดตั้ง File Server ใช้งานในองค์กรด้วย samba บน ubuntu server 24.04
เมื่อพูดถึง “ไฟล์แชร์” ทั้ง Windows Server และ Linux (Samba) สามารถแชร์ไฟล์ให้เครื่องในเครือข่ายได้เหมือนกัน แต่มีความต่างในหลายด้าน ดังนี้
1) โปรโตคอลที่ใช้ (Protocol)
Windows
-
ใช้โปรโตคอล SMB (Server Message Block) ซึ่งเป็นมาตรฐานของ Microsoft
-
การทำงานกับ Windows Client จะ “เข้ากันได้ดีที่สุด”
Linux (Samba)
-
Linux ไม่มี SMB ในตัว แต่ใช้ Samba เพื่อเลียนแบบ SMB
-
ทำให้แชร์ไฟล์ให้ Windows เข้าถึงได้เหมือน Windows Server
สรุป:
ทั้งสองระบบใช้ SMB, แต่ Windows เป็นต้นแบบ ส่วน Linux ใช้ Samba เพื่อรองรับ SMB
2) การจัดการสิทธิ์ (Permissions)
Windows
-
ใช้ระบบ NTFS Permissions + Share Permissions
-
ใช้งานง่ายผ่าน GUI
-
ควบคุมสิทธิ์ที่ละเอียดมาก เช่น Read/Write/Modify/Full Control
Linux
-
ใช้ระบบ Linux Permissions (rwx) หรือ ACL
-
ต้องเข้าใจสิทธิ์ owner/group/other
-
การตั้งค่าสิทธิ์ผ่าน Samba ต้องทำร่วมกับสิทธิ์ Linux
สรุป: Windows ตั้งค่าง่ายกว่า แต่ Linux ยืดหยุ่นสูงกว่าเมื่อคุ้นเคย
3) การจัดการบัญชีผู้ใช้
Windows
-
สามารถเชื่อมกับ Active Directory (AD) ได้อย่างสมบูรณ์
-
ยืนยันตัวตนแบบรวมศูนย์ (Central Authentication)
Linux (Samba)
-
สามารถตั้งเป็น Standalone File Server
-
หรือทำเป็น Domain Controller (Samba AD DC) ก็ได้
-
แต่การรวมกับระบบ Windows AD ต้องตั้งค่าละเอียดกว่า
4) ความง่ายในการใช้งาน
Windows
-
ใช้งานง่าย มีหน้าจอ GUI
-
แชร์โฟลเดอร์ได้ไม่กี่คลิก
-
เหมาะกับสำนักงานที่ใช้ Windows เป็นหลัก
Linux (Samba)
-
ต้องแก้ไฟล์คอนฟิกด้วยมือ (
/etc/samba/smb.conf) -
อาจซับซ้อนกว่า แต่ควบคุมได้ละเอียด และมีความเสถียรสูง
5) ความเสถียรและประสิทธิภาพ
Windows
-
เสถียร เหมาะสำหรับงานองค์กร
-
รองรับฟีเจอร์เฉพาะ เช่น Shadow Copy, DFS, Quotas
Linux (Samba)
-
เบา เร็ว ประหยัดทรัพยากร
-
ทำงานได้เสถียรมากโดยเฉพาะงานไฟล์แชร์ปริมาณมาก
-
เหมาะกับเซิร์ฟเวอร์ขนาดกลาง–ใหญ่
6) ค่าใช้จ่าย
Windows Server
-
มีค่าไลเซนส์ + Client Access License (CAL)
-
ค่าใช้จ่ายสูงในองค์กรใหญ่
Linux (Samba)
-
ฟรี และโอเพ่นซอร์ส
-
ไม่มีค่า CAL
-
ประหยัดงบประมาณโดยเฉพาะในสถาบันการศึกษาและองค์กรภาครัฐ
✔ สรุปแบบง่ายที่สุด
| หัวข้อ | Windows File Server | Linux + Samba |
|---|---|---|
| ใช้งานง่าย | ✔ มาก (มี GUI) | ✘ ต้องแก้ config |
| ความเข้ากันได้กับ Windows | ดีที่สุด | ดีมาก (ผ่าน Samba) |
| ค่าใช้จ่าย | สูง (มี License) | ฟรี |
| ความเสถียร/ความเบา | ดีมาก | ดีเยี่ยม |
| ระบบสิทธิ์ | ใช้งานง่าย | ยืดหยุ่นสูง |
| การเชื่อมต่อ AD | สมบูรณ์แบบ | ต้องตั้งค่าเพิ่ม |
พอร์ตที่ใช้งานใน Windows และ Linux (Samba) สำหรับไฟล์แชร์
ทั้ง Windows File Server และ Linux Samba ใช้พอร์ตเดียวกัน เพราะใช้โปรโตคอล SMB (Server Message Block) ร่วมกัน
✅ พอร์ตหลักของ SMB / Samba
| Protocol | Port | ใช้ทำอะไร |
|---|---|---|
| TCP 445 | SMB Direct | การแชร์ไฟล์/โฟลเดอร์ระหว่าง Windows–Windows และ Windows–Linux (พอร์ตหลัก) |
| TCP 139 | NetBIOS Session Service | SMB เวอร์ชันเก่า ใช้เริ่ม session ก่อนส่งข้อมูล |
| UDP 137 | NetBIOS Name Service | ประกาศชื่อเครื่อง / ค้นหาชื่อในเครือข่าย |
| UDP 138 | NetBIOS Datagram Service | ใช้ส่งข้อความ Broadcast ใน LAN เช่น Browser List |
หมายเหตุ
-
SMB เวอร์ชันใหม่ (SMB2/SMB3) มักใช้งานหลักที่ TCP 445
-
พอร์ต 137–139 ถูกใช้ในกรณีเครือข่ายบางองค์กรที่ยังต้องการ NetBIOS
-
Samba (บน Linux) ใช้พอร์ตเดียวกันนี้ทั้งหมดเพื่อให้เข้ากับ Windows
สรุป
Windows File Server
-
ใช้พอร์ต: 445, 139, 137, 138
-
บริการ SMB ทำงานโดยอัตโนมัติในระบบ Windows
Linux Samba Server
-
ใช้พอร์ต: 445, 139, 137, 138
-
เปิดผ่าน firewall ต้องเปิด Service “Samba” หรือพอร์ต 445
ข้อแนะนำสำหรับการเลือกใช้
-
บริษัทขนาดเล็ก/องค์กรทั่วไป / มี Windows เป็นหลัก → เลือก Windows File Server สะดวกที่สุด
-
องค์กรที่ต้องการลดต้นทุน / ใช้ Linux เยอะ → เลือก Linux + Samba
-
งานที่ต้องการประสิทธิภาพสูงและเสถียรยาวนาน → Linux มักตอบโจทย์ได้ดีกว่า
—
เขียนและรวบรวมโดย
Dr.Arnut Ruttanatirakul
Technology Lecturer, KMITL
9 November 2025

